การทำงานที่ต้องออกแรงมาก
         งานที่ใช้แรงคนทำงาน จะต้องมีการออกแบบเพื่อมิให้พนักงานต้องออกแรงมากเกินไป ซึ่งการที่ต้องออกแรงมากในการปฏิบัติงาน อาจเป็นสาเหตุทำให้อัตราการหายใจและการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น หากพนักงานเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์ อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย ดังนั้น งานที่ต้องออกแรงมาก ถ้าทำได้ควรมีการนำอุปกรณ์เครื่องทุ่นแรงมาใช้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการนำอุปกรณ์เครื่องจักรกลมาใช้แทนแรงงานคน แต่จะเป็นการที่ให้พนักงานทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องจักรกลเหล่านั้น โดยที่อุปกรณ์เหล่านั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานของพนักงาน และในขณะเดียวกัน จะทำให้ได้งานเพิ่มมากขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงมาก ข้อแนะนำในการออกแบบงานที่ต้องออกแรงมากในการทำงานซึ่งอาจมีอันตรายต่อระบบกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนของหลัง มีดังนี้
         • ไม่ควรให้พนักงาน ทำงานที่ต้องออกแรงมากเกินกำลังของแต่ละคน
         • ในช่วงวันทำงาน ควรให้พนักงานที่ต้องออกแรงทำงานมาก ได้มีโอกาสทำงานแบบสลับบ้าง
         • ควรจัดให้มีช่วงระยะเวลาพักไว้ในช่วงวันทำงาน
การออกแบบงานที่ต้องออกแรงมาก สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณามีดังนี้
         • น้ำหนักของสิ่งของ
         • ความบ่อยครั้งในการที่พนักงานต้องยกเคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของ
         • ระยะทางที่พนักงานต้องยกเคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของ
         • รูปร่างวัสดุของสิ่งของที่พนักงานต้องยกเคลื่อนย้าย
         • ระยะเวลาที่ต้องทำงานดังกล่าว
การลดน้ำหนักของวัสดุสิ่งของที่จะยกเคลื่อนย้าย สามารถลดลงได้ดังนี้
         • ลดขนาดของภาชนะบรรจุ
         • ลดจำนวนวัสดุสิ่งของที่จะต้องยกเคลื่อนย้ายในแต่ละครั้ง
         • ควรเพิ่มจำนวนพนักงานในการยกเคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก
ควรทำให้วัสดุสิ่งของง่ายต่อการยกเคลื่อนย้าย ดังนี้
         • เปลี่ยนขนาดและรูปร่างของวัสดุสิ่งของ เพื่อให้จุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของวัสดุสิ่งของอยู่ใกล้ตัวผู้ยกมากที่สุด
         • จัดวางวัสดุสิ่งของให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าสะโพก เพื่อหลีกเลี่ยงการก้มยกของ
         • ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกลเพื่อช่วยในการยกวัสดุสิ่งของให้สูงขึ้น โดยให้สูงระดับสะโพกเป็นอย่างน้อย
         • ให้มีพนักงานมากกว่าหนึ่งคน หรือใช้อุปกรณ์เครื่องทุ่นแรงช่วยในการยกเคลื่อนย้ายของ
         • ควรลากหรือกลิ้งสิ่งของโดยใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น รถลาก เชือก หรือสลิง
         • ควรใช้ส่วนของร่างกายที่แข็งแรงกว่าในการยกเคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของโดยให้มีที่จับหรือสายรัดคาดยึดสิ่งของนั้น
ควรใช้เทคนิควิธีการการจัดเก็บที่ทำให้การยกเคลื่อนย้ายทำได้ง่าย ดังนี้
         • ใช้เหล็กฉากติดผนัง ชั้นวางของ หรือแพลเล็ต เพื่อจัดวางวัสดุสิ่งของในระดับความสูงที่เหมาะสม
         • ในการจัดวางวัสดุสิ่งของบนแพลเล็ต ให้จัดวางวัสดุสิ่งของที่หนักไว้รอบ ๆ ขอบของแพลเล็ตแทนที่จะจัดวางไว้ตรงกลาง เพื่อเป็นการกระจายน้ำหนักให้เท่ากันทั้งแพลเล็ต อย่างไรก็ตาม ต้องแน่ใจว่าสิ่งของดังกล่าวจะไม่ตกหล่นออกจากแพลเล็ตได้ง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใด
ควรลดระยะทางที่ต้องยกเคลื่อนย้ายให้น้อยที่สุด ดังนี้
         • ปรับปรุงแผนผังบริเวณสถานที่ทำงาน
         • หาบริเวณที่ผลิตสินค้าและพื้นที่การจัดเก็บสิ่งของใหม่
ควรลดจำนวนการยกเคลื่อนย้ายให้น้อยที่สุด ดังนี้
         • เพิ่มจำนวนพนักงานในงานยกเคลื่อนย้ายให้มากขึ้น
         • ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกลช่วยในการยกเคลื่อนย้าย
         • ปรับเปลี่ยนบริเวณที่จัดเก็บหรือพื้นที่การทำงานใหม่
ให้มีการบิดเอี้ยวตัวของพนักงานให้น้อยที่สุด ดังนี้
         • ให้ยกเคลื่อนย้ายโดยให้สิ่งของอยู่ด้านหน้าของลำตัว
         • ให้มีเนื้อที่ว่างมากพอเพื่อให้พนักงานสามารถหมุนหันตัวได้
         • ให้หมุนหันตัวโดยหมุนหันเท้าแทนการบิดเอี้ยวตัว
เอกสารอ้างอิง
รัตนาภรณ์ อมรรัตนไพจิตร และสุดธิดา กรุงไกรวงศ์. การยศาสตร์ในสถานที่ทำงาน. กรุงเทพฯ : บริษัท เรียงสาม กราฟฟิค ดีไซน์ จำกัด, 2544.